พระท่ากระดานเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ปิดทองมาแต่ในกรุ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
|
|
รหัสพระเครื่อง |
MT107000 |
ชื่อพระเครื่อง |
พระท่ากระดานเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ปิดทองมาแต่ในกรุ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี |
ราคา |
โทรถาม
|
รายละเอียด |
พระท่ากระดานเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ปิดทองมาแต่ในกรุ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี กล่าวตามประวัติความเป็นมาแล้ว \\\"พระท่ากระดาน\\\" นี้ตั้งชื่อตาม \\\"วัดท่ากระดาน หรือ วัดกลาง\\\" อันเป็นวัดสำคัญ 1 ใน 3 วัดของ \\\"เมืองท่ากระดาน\\\" เมืองเก่าแก่เมืองเดียวริมแม่น้ำแควใหญ่ที่มีความสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยาเคียงคู่กับเมืองกาญจนบุรีเก่า และเมืองไทรโยค คือ เป็นเมืองที่มีเจ้าปกครอง อีกทั้งเป็นเมืองหน้าด่านที่ต้องสู้รบกับกองทัพพม่าที่ยกทัพเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ในทุกคราว แต่ปัจจุบันลักษณะสภาพทางภูมิศาสตร์ จึงถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอเมื่อ พ.ศ.2438 และลดฐานะเป็นหมู่บ้านและตำบลอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี\\\"เมืองท่ากระดาน\\\" มีวัดสำคัญ 3 วัดคือ วัดเหนือ (วัดบน) วัดกลาง (วัดท่ากระดาน) และวัดล่าง เมื่อราว พ.ศ. 2495 ได้มีการขุดค้นหาโบราณวัตถุกันเป็นการใหญ่และได้พบพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่วัดทั้งสามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่วัดกลางซึ่งเรียกชื่อเต็มว่า \\\"วัดท่ากระดาน\\\" นั้น ได้ปรากฏพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่สนิมแดงงามจัดและปิดทองมาแต่ในกรุทุกองค์ กอปรกับวัดนี้ตั้งอยู่ในส่วนกลางของเมืองท่ากระดานเก่าพอดี ชาวบ้านจึงเห็นเหมาะสมที่จะเรียกพระพิมพ์นี้ตามชื่อวัดว่า \\\"พระท่ากระดาน\\\"สถานที่ที่สันนิษฐานว่าเป็นที่สร้าง \\\"พระท่ากระดาน\\\" คือบริเวณหน้าถ้ำทางตอนเหนือของเมืองท่ากระดานเก่าขึ้นไปตามลำน้ำ ซึ่งเดิมคงจะเป็นวัดเก่าแก่ เนื่องจากมีศาสนวัตถุที่ปรักหักพังและพระเจดีย์เป็นจำนวนมาก และจากวัตถุโบราณที่พบ เช่น บาตรขนาดเขื่อง เตาดินเก่าๆหลายเตา ที่สำคัญคือปรากฏมีสนิมแดงงดงามมากตกอยู่เรี่ยราดบริเวณเตาและพบพระท่ากระดานทุกๆพิมพ์อีกด้วย จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแหล่งสร้างพระท่ากระดานอย่างแน่นอน และเนื่องจากหน้าถ้ำมีต้นลั่นทมขนาดใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง จึงเรียกพระท่ากระดานที่พบในบริเวณนี้ว่า \\\"พระท่ากระดาน กรุต้นลั่นทม\\\"นอกจากนี้ยังมีการขุดค้นพบพระท่ากระดานตามบริเวณต่างๆ โดยรอบแต่มีจำนวนไม่มากนัก อาทิ วัดบ้านนาสวน (วัดต้นโพธิ์) อารามร้างตอนเหนืออำเภอศรีสวัสดิ์ วัดศรีอุปลาราม (วัดหนองบัว) อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี วัดท่าเสา ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น \\\"พระท่ากระดาน\\\" มีพุทธลักษณะเค้าพระพักตร์เคร่งขรึมน่าเกรงขาม แข้งเป็นสัน และพระหนุแหลมยื่นออกมา ลักษณะเหมือน \\\"พระอู่ทองหน้าแก่\\\" อันเป็น \\\"พุทธศิลปะสมัยลพบุรี\\\" และด้วยอายุการสร้างเกินกว่า 500 ปี พระท่ากระดานส่วนมากจึงเกิด \\\"สนิมไขและสนิมแดง\\\" ขึ้นคลุมอย่างหนาแน่นและส่วนใหญ่จะลงรักปิดทองมาแต่เดิม ดังนั้นข้อพิจารณาเบื้องต้นในการศึกษา \\\"พระท่ากระดาน\\\" ก็คือ สภาพสนิมไข สนิมแดง และรักเก่า ทองเก่า\\\"พระท่ากระดาน\\\" นั้นในสมัยโบราณเรียกขานกันว่า \\\"พระท่ากระดาน เกศคด ตาแดง\\\" อันเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะคือ มีเกศค่อนข้างยาวและคดงอ ส่วน \\\"ตาแดง\\\" นั้นเนื่องจากพระท่ากระดานเป็นพระหล่อจากเนื้อชินตะกั่ว ซึ่งพอได้อายุเนื้อตะกั่วจะขึ้นสนิมปกคลุมบนผิว \\\"สนิมตะกั่ว\\\" จะมีลักษณะเป็นสีแดง หนา และติดแน่น มีความมันเยิ้ม ยิ่งเมื่อถูกสัมผัสก็จะยิ่งมันวาว และบนสนิมแดงนี้จะเกิดสนิมไขสีขาวครีมเคลือบอยู่อีกชั้นหนึ่ง และจาการเวลาที่ยาวนานดังกล่าวแล้วสนิมแดงนี้จะเป็นสนิมแดงเข้มคล้ายสีเปลือกมังคุด และมี \\\"รอยแตกตามุ้ง\\\" ลักษณะเป็นตาตารางบนเนื้อสนิมแดง ตลอดจนบนสนิมไขซึ่งเกิดจากการหดตัวหรือขยายตัวของเนื้อตะกั่วขององค์พระ เอกลักษณ์อีกประการหนึ่งคือ \\\"คราบปูนแคลเซี่ยม\\\" อันเป็นหลักสำคัญสำหรับการพิจารณาพระแท้ของพระเนื้อชินตะกั่ว ซึ่งเรียกว่า \\\"พระชินสนิมแดง\\\"\\\"พระท่ากระดาน\\\" มีทั้งหมด 2 กรุคือ กรุเก่าและกรุใหม่ ทั้งสองกรุนี้จะแตกต่างกันที่พื้นหลังขององค์พระ \\\"กรุเก่า\\\" จะตัดติดเป็นขอบพื้นบ้าง ทำให้องค์พระแลดูใหญ่และล่ำสัน ส่วน \\\"กรุใหม่\\\" จะตัดติดขอบชิดกับแม่พิมพ์ขององค์พระ เห็นพระพักตร์และพระกรรณอย่างชัดเจน ทำให้เมื่อดูพระท่ากระดานกรุใหม่จะมีขนาดเล็กกว่ากรุเก่า แต่ผิวพระและลักษณะแม่พิมพ์ด้านหน้าจะคมชัดกว่าในอดีตนักนินมสะสมพระเครื่อง พระบูชา มักนำ \\\"พระท่ากระดาน\\\" ไปล้างผิวแคลเซี่ยมออกเพื่อให้เห็นสีของสนิมแดงและรอยแตกตามุ้งได้อย่างชัดเจนทั้งองค์ แต่ในปัจจุบันจะนิยมความบริสุทธิ์ขององค์พระเดิมที่ปราศจากการล้างหรือตกแต่งใดๆ ตำหนิแม่พิมพ์และรายละเอียดต่างๆ จึงถูกบดบังด้วยผิวรักปิดทอง สนิมแดง และแคลเซี่ยม การพิจารณาจึงจำเป็นต้องตรวจสอบจากขนาดขององค์พระและเอกลักษณ์ของแม่พิมพ์ดังที่กล่าวมาเท่านั้นจากหนังสือเบญจมหามงคล ของ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย กล่าวตามประวัติความเป็นมาแล้ว \\\"พระท่ากระดาน\\\" นี้ตั้งชื่อตาม \\\"วัดท่ากระดาน หรือ วัดกลาง\\\" อันเป็นวัดสำคัญ 1 ใน 3 วัดของ \\\"เมืองท่ากระดาน\\\" เมืองเก่าแก่เมืองเดียวริมแม่น้ำแควใหญ่ที่มีความสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยาเคียงคู่กับเมืองกาญจนบุรีเก่า และเมืองไทรโยค คือ เป็นเมืองที่มีเจ้าปกครอง อีกทั้งเป็นเมืองหน้าด่านที่ต้องสู้รบกับกองทัพพม่าที่ยกทัพเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ในทุกคราว แต่ปัจจุบันลักษณะสภาพทางภูมิศาสตร์ จึงถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอเมื่อ พ.ศ.2438 และลดฐานะเป็นหมู่บ้านและตำบลอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี\\\"เมืองท่ากระดาน\\\" มีวัดสำคัญ 3 วัดคือ วัดเหนือ (วัดบน) วัดกลาง (วัดท่ากระดาน) และวัดล่าง เมื่อราว พ.ศ. 2495 ได้มีการขุดค้นหาโบราณวัตถุกันเป็นการใหญ่และได้พบพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่วัดทั้งสามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่วัดกลางซึ่งเรียกชื่อเต็มว่า \\\"วัดท่ากระดาน\\\" นั้น ได้ปรากฏพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่สนิมแดงงามจัดและปิดทองมาแต่ในกรุทุกองค์ กอปรกับวัดนี้ตั้งอยู่ในส่วนกลางของเมืองท่ากระดานเก่าพอดี ชาวบ้านจึงเห็นเหมาะสมที่จะเรียกพระพิมพ์นี้ตามชื่อวัดว่า \\\"พระท่ากระดาน\\\"สถานที่ที่สันนิษฐานว่าเป็นที่สร้าง \\\"พระท่ากระดาน\\\" คือบริเวณหน้าถ้ำทางตอนเหนือของเมืองท่ากระดานเก่าขึ้นไปตามลำน้ำ ซึ่งเดิมคงจะเป็นวัดเก่าแก่ เนื่องจากมีศาสนวัตถุที่ปรักหักพังและพระเจดีย์เป็นจำนวนมาก และจากวัตถุโบราณที่พบ เช่น บาตรขนาดเขื่อง เตาดินเก่าๆหลายเตา ที่สำคัญคือปรากฏมีสนิมแดงงดงามมากตกอยู่เรี่ยราดบริเวณเตาและพบพระท่ากระดานทุกๆพิมพ์อีกด้วย จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแหล่งสร้างพระท่ากระดานอย่างแน่นอน และเนื่องจากหน้าถ้ำมีต้นลั่นทมขนาดใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง จึงเรียกพระท่ากระดานที่พบในบริเวณนี้ว่า \\\"พระท่ากระดาน กรุต้นลั่นทม\\\"นอกจากนี้ยังมีการขุดค้นพบพระท่ากระดานตามบริเวณต่างๆ โดยรอบแต่มีจำนวนไม่มากนัก อาทิ วัดบ้านนาสวน (วัดต้นโพธิ์) อารามร้างตอนเหนืออำเภอศรีสวัสดิ์ วัดศรีอุปลาราม (วัดหนองบัว) อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี วัดท่าเสา ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น \\\"พระท่ากระดาน\\\" มีพุทธลักษณะเค้าพระพักตร์เคร่งขรึมน่าเกรงขาม แข้งเป็นสัน และพระหนุแหลมยื่นออกมา ลักษณะเหมือน \\\"พระอู่ทองหน้าแก่\\\" อันเป็น \\\"พุทธศิลปะสมัยลพบุรี\\\" และด้วยอายุการสร้างเกินกว่า 500 ปี พระท่ากระดานส่วนมากจึงเกิด \\\"สนิมไขและสนิมแดง\\\" ขึ้นคลุมอย่างหนาแน่นและส่วนใหญ่จะลงรักปิดทองมาแต่เดิม ดังนั้นข้อพิจารณาเบื้องต้นในการศึกษา \\\"พระท่ากระดาน\\\" ก็คือ สภาพสนิมไข สนิมแดง และรักเก่า ทองเก่า\\\"พระท่ากระดาน\\\" นั้นในสมัยโบราณเรียกขานกันว่า \\\"พระท่ากระดาน เกศคด ตาแดง\\\" อันเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะคือ มีเกศค่อนข้างยาวและคดงอ ส่วน \\\"ตาแดง\\\" นั้นเนื่องจากพระท่ากระดานเป็นพระหล่อจากเนื้อชินตะกั่ว ซึ่งพอได้อายุเนื้อตะกั่วจะขึ้นสนิมปกคลุมบนผิว \\\"สนิมตะกั่ว\\\" จะมีลักษณะเป็นสีแดง หนา และติดแน่น มีความมันเยิ้ม ยิ่งเมื่อถูกสัมผัสก็จะยิ่งมันวาว และบนสนิมแดงนี้จะเกิดสนิมไขสีขาวครีมเคลือบอยู่อีกชั้นหนึ่ง และจาการเวลาที่ยาวนานดังกล่าวแล้วสนิมแดงนี้จะเป็นสนิมแดงเข้มคล้ายสีเปลือกมังคุด และมี \\\"รอยแตกตามุ้ง\\\" ลักษณะเป็นตาตารางบนเนื้อสนิมแดง ตลอดจนบนสนิมไขซึ่งเกิดจากการหดตัวหรือขยายตัวของเนื้อตะกั่วขององค์พระ เอกลักษณ์อีกประการหนึ่งคือ \\\"คราบปูนแคลเซี่ยม\\\" อันเป็นหลักสำคัญสำหรับการพิจารณาพระแท้ของพระเนื้อชินตะกั่ว ซึ่งเรียกว่า \\\"พระชินสนิมแดง\\\"\\\"พระท่ากระดาน\\\" มีทั้งหมด 2 กรุคือ กรุเก่าและกรุใหม่ ทั้งสองกรุนี้จะแตกต่างกันที่พื้นหลังขององค์พระ \\\"กรุเก่า\\\" จะตัดติดเป็นขอบพื้นบ้าง ทำให้องค์พระแลดูใหญ่และล่ำสัน ส่วน \\\"กรุใหม่\\\" จะตัดติดขอบชิดกับแม่พิมพ์ขององค์พระ เห็นพระพักตร์และพระกรรณอย่างชัดเจน ทำให้เมื่อดูพระท่ากระดานกรุใหม่จะมีขนาดเล็กกว่ากรุเก่า แต่ผิวพระและลักษณะแม่พิมพ์ด้านหน้าจะคมชัดกว่าในอดีตนักนินมสะสมพระเครื่อง พระบูชา มักนำ \\\"พระท่ากระดาน\\\" ไปล้างผิวแคลเซี่ยมออกเพื่อให้เห็นสีของสนิมแดงและรอยแตกตามุ้งได้อย่างชัดเจนทั้งองค์ แต่ในปัจจุบันจะนิยมความบริสุทธิ์ขององค์พระเดิมที่ปราศจากการล้างหรือตกแต่งใดๆ ตำหนิแม่พิมพ์และรายละเอียดต่างๆ จึงถูกบดบังด้วยผิวรักปิดทอง สนิมแดง และแคลเซี่ยม การพิจารณาจึงจำเป็นต้องตรวจสอบจากขนาดขององค์พระและเอกลักษณ์ของแม่พิมพ์ดังที่กล่าวมาเท่านั้น |
เข้าชมร้าน |
xxxx
|
โทรศัพท์ |
xxx-xxx-xxxx , |
ผู้เข้าชม |
6946 |
*** พระเครื่อง มณเฑียร *** |
|
|