พระเครื่อง มณเฑียร
 ร้าน  xxxx
 
 พระเครื่อง  มณเฑียร หน้าพระมณเฑียร      พระเครื่อง  มณเฑียร หน้าร้าน    พระเครื่อง  มณเฑียร การรับประกัน / การชําระเงิน     พระเครื่อง  มณเฑียร รายละเอียดของร้าน

พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ๒๔๙๕วัดบวรฯติดรางวัลงานหอประชุมฯ



พระเครื่อง พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ๒๔๙๕วัดบวรฯติดรางวัลงานหอประชุมฯ

พระเครื่อง พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ๒๔๙๕วัดบวรฯติดรางวัลงานหอประชุมฯ



รหัสพระเครื่อง   MT1010811
ชื่อพระเครื่อง   พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ๒๔๙๕วัดบวรฯติดรางวัลงานหอประชุมฯ
ราคา      โทรถาม 
รายละเอียด    พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ๒๔๙๕วัดบวรฯติดรางวัลงานหอประชุมฯ"""""พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ๒๔๙๕วัดบวรนิเวศวิหาร" ในปีพ.ศ.๒๔๙๕สมเด็จพระวชิรญาณวงค์สมเด็จพระสังฆราชสกลมมหาสังฆปรินายกมีพระชนมายุครบ๘๐พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับบำเพ็ญกุศลฉลองพระชนมายุถวายเป็นพระราชกุศล ประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมาฑีฆายุมหมงคล,จัดสร้างมงคลวัตถุต่างๆได้แก่เหรียญไพรีพินาศ(เนื้อทองแดง,เงิน,เงินลงยา,ทองคำ,ทองคำลงยา),พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ,พระกริ่งไพรีพินาศ,หม้อน้ำมนต์,พระบูชาไพรีพินาศเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้บุคคลพึงกำจัดกิเลศความหลงอันเป็นไพรีภายในใจตนเองซึ่งการเอาชนะใจตนเองได้นั้นเป็นการประเสริฐยิ่งกว่าการเอาชนะผู้อื่น พระกริ่งพระชัยวัฒน์ ไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศฯ พ.ศ. 2495 ในกระบวนการพระหล่อโบราณนั้นมีด้วยกันหลายวัดที่สร้างกันขึ้นมา ทั้งในแถบภาคกลางและต่างจังหวัดสำหรับพระหล่อโบราณที่พระอาจารย์ผู้ทรงคุณอันวิเศษเป็นผู้สร้างขึ้นมาในต่างจังหวัดว่กันจริงๆ แล้วมีเยอะมากเลย แต่ว่านักนิยมสะสมพระเครื่องยังไม่รู้จักบางครั้งและหลายๆ ครั้งที่นักนิยมสะสมพระเอาพระเครื่องในท้องถิ่นต่างๆ นั้นมาขายให้เป็นพระหล่อโบราณของพระอาจารย์ดังๆ กันไป เพราะว่าปล่อยได้ในราคาที่แพงมากนั่นเอง ทั้งๆ ที่นักนิยมสะสมพระทางท้องถิ่รเองก็รู้และบางทีเอามาขายเองอีกด้วยนั่นนับว่ายังดีที่เป็นของแท้มีการปลุกเสกที่แน่นอน ดีกว่าที่เป็นของทำเทียมขึ้นมา//////////////////////////////////// นักนิยมสะสมพระเครื่องยกย่องให้พระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราชแพหลายๆ รุ่นเป็นพระเครื่องราคาที่แพงอย่างมาก บางรุ่นเป็นแสนและหลายแสนบาท บางรุ่นก็แค่ไม่กี่หมื่นบาท หรือ หมื่นกว่าๆ เท่านั้นเอง การสร้างจำลองแบบพระพุทธรูปที่ที่มีความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์นั้นสร้างกันมาในช่วงร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเป็นช่วงที่มีการสร้างมาก แต่ก่อนนั้นก็มีการสร้างเหมือนกันแต่ว่าน้อย เช่น พระยอดธงของกรุต่างๆ พระยอดธงนี้มีเนื้อเงิน ทองคำ นาก ตะกั่วและโลหะผสม พระยอดธงนั้นสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย พระหล่อโบราณนั้นมีอีกมาย ซึ่งเป็นที่นิยมแต่ในท้องถิ่นเท่านั้น ซึ่งเป็นด้วยแต่ก่อนนั้นการเผยแพร่ทางข่าวสารนั้นยังไม่มากเหมือนช่วงที่ผ่านมา สิ่งที่ไม่อาจยืนยันได้ว่าเพราะเหตุใดกันพระบางอย่างนั้นเก่าแต่ว่าไม่นิยม บางอาจารย์สร้างมานานเนื้อหาดีแต่ความนิยมก็เป็นเรื่องที่อธิบายไม่ถูก แต่ สำหรับนักนิยมสะสมพระเครื่องที่ชอบของเก่าๆ เนื้อหาดีพระอาจารย์ที่ปลุกเสกแก่กล้าอาคมขลังสร้างและเสกนั้น ผู้ที่ชอบเก็บพระดีราคาเบาๆ นั้นชอบอย่างมากเขาจะไม่เอาพระที่ราคาแพงนั้นต่อให้ดังขนาดไหนก็ตาม แต่ผู้ปฏิบัติทำตัวไม่ดี ผิดศีลทุจริต ต่อให้พระนั้นจะมีค่ามีอภินิหารอย่างไรก็ตาม ก็ไม่อาจคุ้มครองผู้กระทำความผิดไปได้ พระหล่อโบราณที่เป็นรูปจำลองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ยุคที่ผ่านมาไม่กี่สิบปีมีทั้งการสร้างจำลองพระพุทธรูปขนาดบูชาหลายขนาดด้วยกัน รวมทั้งพระเครื่องขนาดห้อยคออีกด้วยพระกริ่งพระชัยวัฒน์จำลองพระไพรีพินาศสร้างขึ้นมาเพื่อมอบให้ผู้เลื่อมใสและมอบให้ศิษย์ทั่วไป ปัจจุบันพระไพรีพินาศได้รับความนิยมอย่างมากและของที่สร้างขึ้นมาใหม่ๆ ในวาระต่างกันไป รุ่นที่แพงมากก็เป็นพระไพรีพินาศที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2495 พระไพรีพินาศเป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ซึ่งมีอายุหลายร้อยปีที่ได้รับการขนานนามว่าพระไพรีพินาศ ด้วยผู้ร้ายที่คิดร้ายและนำเอาพระพุทธรูปไปนั้นก็ยังเอาไปไม่ได้ ต้องนำเอาพระมาคืนในเวลาต่อมา///////////////////////////////////////////////// พระไพรีพินาศองค์นี้ชาวบ้านขุดพบได้ที่จังหวัดปราจีนบุรี ชาวบ้านที่ขุดดินพลั่วที่แทงดินไปได้กระแทกเอาโลหะ ซึ่งชาวบ้านที่เป็นผู้ขุดดินนั้นก็พอจะรู้ว่าพลั่วแทงนั้นถูกหินหรือโลหะ ด้วยชาวบ้านที่ขุดนั้นก็คอยสังเกตและระวังว่าจะถูกพวกโลหะหรือไม่เพราะย่านนั้นมีชาวบ้านเคยขุดได้สมบัติของมีค่าเหมือนกัน คนที่ไม่อาจเก็บความลับก็พูดไป แต่คนอีกไม่น้อยที่ขุดพบแล้วเก็บเอาความลับนั้นไว้เพราะไม่ต้องการบอกให้ใครรู้ แต่เมื่อขุดได้พระพุทธรุปก็ไม่อาจปิดเอาความลับนั้นไว้ได้ต่อมาผู้ขุดพบได้มอบให้เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ และเจ้านายชั้นผู้ใหญ่มอบให้พระเถระชั้นผู้ใหญ่มาเก็บรักษาไว้ ต่อมาพระพุทธรูปองค์นี่ได้มาอยู่ที่วัดบวรฯ ตอนที่มาอยู่วัดบวรฯนั้นมีผู้คิดร้ายต่อผู้ครอบครองและยังนำเอาไปก็ต้องเอามาคืนในที่สุด ที่ไม่สามารถนำออกไปจากวัดได้ พระไพรีพินาศเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนมาช้านานและผู้ที่เคยได้ยินชื่อเสียงช่วงทีทมีการสร้างพระเครื่องพระบูชากันมากมายนั้น ดังไปหลายประเทศ สำหรับคนไทยนั้นที่เป็นนักนิยมมสะสมพระเครื่องและผู้เลื่อมใสต่างมีไว้บูชากันทั้งนั้น วัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งอยู่ย่านบางลำภู เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหารถึงจะเป็นวัดที่ไม่ใหญ่โตนักก็ตามวัดนี้สร้างมาช้านานแล้ว แต่ก่อนยังเป็นวัดเล็กๆ ต่อมาตอนหลังในรวมเอาวัดรังษีมารวมเข้าด้วยกันเลยทำให้วัดนี้ใหญ่โตขึ้นมากกว่าแต่ก่อน///////////////////////////////////////// เจ้าอาวาสที่ปกครองวัดนี้ มีดังนี้ พระวชิรญาโณภิกขุ( พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4) สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปวเรศวิริยาลงกรณ์( กรมหมื่นบวรรังสีสุริยพันธ์) สมด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส(พระองค์เจ้ามนุสสนาคมานพ พระโอรสในรัชกาลที่4) สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิญาณวงศ์(ม.ร.ว. ชื่น สุจิตโต นพวงศ์ป.ธ.7) พระพรมมุนี(ผิน สุวโจ ธรรมประธีป ป.ธ.6) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สุวฑฒโน คชวัตร ป.ธ. 9 เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน) เจ้าอาวาสวัดบวรฯนั้นส่วนมากจะเป็นพระเชื้อพระวงศ์ ในที่นี่จะขอเขียนถึงเจ้าอาวาสองค์ที่4 คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิญาณวงศ์ ทรงมีนามเดิมว่าหม่อมราชวงชื่น นพวงศ์ ทรงเป็นพระโอรสของหม่อมเจ้าถนอม นพวงศ์ และหม่อมเอม นพวงศ์ ณ อยุธยาประสูติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ 2415 แรม 7 ค่ำ เดือน 12 ปีวอก เมื่อทรงพระเยาว์ ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฏราชกุมาร และได้ทรงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2428 โดยมีพระพรหมมุนี (เหมือน สุมิตโต) วัดบวรฯเป็นพระอุปัชฆาย์และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2435 ทรงเจริญพระชนมายุครบอุปสมบท จึงทรงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดบวรนิเวศวิหารเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2435 โดยมีพระพรหมมุนี (แฟง กิตติสาโร) วัดมกุฏกษัตริย์ยาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นวชิรญาณวดรรส ทรงเป็นพระกรรมวาจาจารย์ทรงได้รับพระนามฉายาว่า สุจิตโต ท่านสอบได้นักธรรมเอกครั้งที่ยังเป็นสามเณรและสอบได้เปรียญธรรมถึง 5 ประโยค หลังจากที่บวชเป็นพระสงฆ์แล้วทรงสอบได้เปรียญธรรมถึง 7 ประโยค ซึ่งถือว่าสูงแล้วในสมัยนั้นต้องเป็นผู้มีความรอบรู้และความสามารถอย่างมาก พ.ศ 2439 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญที่พระคุณคณาภรณ์ พ.ศ. 2446 ได้รับพระราชทานสมศักดิ์พระราชาคณะ ชั้นเทพพิเศษเสมอชั้นธรรมที่พระญาณวราภรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2455 ต่อมาเมื่อในมหามงคลวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่7 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2471 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทาน สถาปนาพระญาณวราภรณ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์และดำรงตำแหน่งใหญ่ฝ่ายธรรมยุต จนถึงปี พ.ศ.2487 สิ้นพระชนม์คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล ได้ประกาศสถาปนาสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ในปี พ.ศ.2488 และเมื่อปี พ.ศ.2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จออกผนวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาโดยมีสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์สมเด็จพระสังฆราชเป็นพระอุปัชฌาย์ และถวายพระนามว่า ภูมิพโล และเสด็จประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 รวม 15 วัน วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2499 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาพระอิสริยยศพระอิสริยศักดิ์สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์/////////////////////// สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ทรงประกอบพระกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เป็นอเนกอนันต์ที่เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาเป็นที่ยอมรับทั้งภายในและภายนอกประเทศเป็นอย่างยิ่ง จวบจนวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2501 เวลา 01.08 นาฬิกา ณ สามัคคีพยาบาล โรงพยาบาลจุฬลงการณ์สภากาชาติไทย สิริพระชนมายุได้ 85 พระชันษา 110เดือนกับอีก 19 วัน ยังความอาลัยแกประชาชนชาวไทยและพระสงฆ์สามเณรทั่วประเทศ////////////////////////////////// การสร้างพระเครื่อง ในวโรกาสที่สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราชฯ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ 2495 ได้มีการจัดกิจกรรมถวายพระเกียรติทั้งพระราชพิธีและรัฐพิธี เช่นพระราชพิธีบำเพ็ญพระกุศลฉลองพระชนมายุถวาย การขัดกิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาลเช่นการออกร้านค้า แสดงกิจกรรมเผยแพร่ผลงานของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ การเปิดปูชนียวัตถุ ปูชนียสถานต่างๆ ที่สำคัญของวัดบวรฯ เช่นพระอุโบสถ พระวิหารพระศาสดา พระเจดีย์ พระไพรีพินาศ ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสักการะบูชาเป็นกำหนดเวลาถึง 3 วัน/////////////////////////// ครั้นเมื่องานฉลองพระชนมายุครบ80 พรรษาได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็ได้มีการประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมากรปางมารวิชัย(พุทธลักษณะเหมือนพระพุทธชินสีห์) เพื่อเป็นที่ระลึกแด่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า มีขนาดหน้าตัก 100 ซม. พระพุทธรูปองค์นี้มีพระนามว่า พระพุทธทีฆายุมหมงคล หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหลวงพ่อดำที่ประดิษฐานอยู่ในซุ้มวิหารพระศาสดา ว่ากันว่าหลวงพ่อดำนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหลวงพ่อพระไพรีพินาศและพระศาสดา ในพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมากรพุทธฑีฆายุมหมงคล ยังได้จัดสร้างพระเครื่องและอิทธิวัตมงคลต่างๆ อีกหลายรายการด้วยกัน อันได้แก่ พระบูชาไพรีพินาศ ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 41/2 นิ้วหรือพูดว่า 4 นิ้วครึ่งนั่นเอง มีความสูง 16 ซม.หรือ ประมาณ 7 นิ้วนั่นเอง เป็นพระบูชารุ่นแรกของวัดบวรฯ//////////////////////////// พระกริ่งไพรีพินาศ ขนาดหน้าตักกว้าง 1.5ซม.สูงจากฐานถึงยอด 3.5 ซม มีทั้งบัวแหลมและบัวเหลี่ยม พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ ขนาดหน้าตักกว้าง 8 มิลลิเมตร สูงจากฐานถึงยอด2 ซม. เป็นพระชัยวัฒน์รุ่นแรก พระชัยวัฒน์พิมพ์สมาธิบัวฟันปลาขนาดหน้าตักกว้าง 1 ซม. สูง 1.5 ซม. บาตรน้ำมนต์(หม้อน้ำมนต์) มีความสูง 17.5 ซม. หรือ 8 นิ้ว กว้าง 11 ซม. หรือ 4 นิ้วครึ่ง พิธีหล่อพระครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ.2496 เวลา 17.06 น.จุดเทียนชัยสวดพระพุทธมนต์พุทธมนต์พุทธาภิเษกจนถึงเวลา 24 นาฬิกา หยุดพัก รุ่งขึ้นวันเสาร์ที่ 4 เมษายน เริ่มสวดพุทธาภิเษกต่อตั้งแต่เวลา 09.00 น. ไปจนถึง 11.00 น. หยุดฉันเพลแล้วสวดบริกรรมต่อไปจนถึงเวลาเททอง พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ประกอบพิธีหล่อในครั้งนั้นได้ประกอบพิธีฉลอง ปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2496 อันเป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระสังฆราชเจ้านอกจากพระกริ่งไพรีพินาศ พระชัยวัฒน์ไพรีนาศ บาตรน้ำมนต์ พระบูชาแล้วยังมีพระกริ่งสุจิตโต หรือที่เรียกว่าพระกริ่งบัวรอบและยังมีเหรียญปั๊มขนาดเล็กเป็นเหรียญพระไพรีพินาศ เหรียญพระไพรีพินาศนั้นเป็นเหรียญขนาดเล็ก มีเนื้อทองแดง เนื้อเงิน เนื้อเงินลงยา ปัจจุบันค่อนข้างที่จะหายากเหมือนกัน///////////////////////////// เหรียญพระไพรีพินาศนั้นด้านหลังจะมีตัวขอมอ่านว่า อะสังวิสุโลปุสะพุพะ 2495 ส่วนพระกริ่งสุจิตโตนั้นเป็นพระกริ่งที่หล่อแบบโบราณมีบัวคว่ำบัวหงายอยู่รอยฐานพระกริ่งได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน////////////////////////// พระกริ่งไพรีพินาศนั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ บัวแหลม และ บัวเหลี่ยม ซึ่งจะเหมือนกับพระไพรีพินาศองค์จริง คือ เป็นพระพุทธปางประทานพร(คล้ายปางมารวิชัย) แต่ทรงหงายพระหัตถ์ขวา ประทับนั่งสมาธิขัดเพชรอยู่บนบัวแบบศรีวิชัย(บัวคว่ำบัวหงาย)ผ้าสังฆาฏิที่พาดบนไหล่ ด้านหน้ามีลักษณะคล้ายๆ กับจะลื่นไหลหลุดลงไปด้านหน้ามีลักษณะคล้ายผ้าสังฆาฏิของพระพุทธรุปแบบเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ใบหน้าค่อนข้างกลมใบหูใหญ่และยาว เม็ดพระศกกลมและโต มุ่นเมาลีเป็นต่อมกลมๆ เปลวรัศมีแหลม(ในบางองค์ก็ทู่ๆ ต้อๆ เพราะหล่อแบบโบราณจึงไม่ติดชัดเจน) ด้านหลังชายสังฆฏิทอกลงมาจากไหล่จะพลิ้ว ปล่อยชายลงมา 3ริ้ว ยาวทอดลงมาเกือบถึงฐานบัว ลักษณะอ่อนช้อยงดงามแนบไปกับลำพระองค์(ลำตัว) ขององค์พระฐานด้านหน้ากลีบบัวหงาย(ชั้นบน) มีลักษณะแหลมแบบบัวฟันปลา ส่วนบัวคว่ำ (ชั้นล่าง) มีลักษณะเป็นกลีบบัวเหลี่ยมๆ แบบศรีวิชัยอันได้แรงบันดาลใจมาจากบัวสัตตบงกชนั่น ฐานด้านหลังกลีบบัวชั้นบนถูกลบออกมีลักษณะเป็นแผ่นป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีจารึกตัวอักษรจมลงไปอ่ายว่าพระกลีบบัวชั้นล่างสุดถูกลบออกเป็นแผ่นป้ายขนาดยาวจารึกตัวอักษรลงไปเช่นกันอ่านว่าไพรีพินาศ ส่วนใหญ่แล้วจะหล่อติดไม่ค่อยชัดเจน(ด้วยกรรมวิธีการหล่อแบบโบราณนั่นเอง ไม่ทันสมัย) ใต้ฐานอุดเม็ดกริ่งโดยการเจาะฐานเอาเนื้อโลหะออกแล้วเอาเม็ดกริ่งใส่เข้าไปแล้วอุดด้วยแผ่นโลหะ การเจาะรูนั้นจะเจาะกว้างพอสมควร มีรอยตะไบฟันละเอียด ดูเหมือนถูไปเพียงครั้งเดียว ส่วนอีกพิมพ์นั้นเรียกว่าบัวแหลม ดูโดยทั่วไปแล้วจะเหมือนบัวเหลี่ยมแต่ไม่เหมือนทีเดียว ที่ฐานจะมีกลีบบัวหงายขึ้นของบัวชั้นบน ชั้นล่างแหลมเหมือนฟันปลา ถ้าไม่สังเกตุกันจริงหรือจดจำได้แม่นยำจะจำผิดจำถูกบัวเหลี่ยมเป็นบัวแหลม บัวแหลมเป็นบัวเหลี่ยม แต่ยังไงก็จำไว้ให้ดีว่าของเก๊กับของแท้ก็แล้วกัน ส่วนพระชัยวัฒน์ไพรีพินาศนั้นมีเพียงพิมพ์บัวเหลี่ยม ดูแล้วจะเหมือนพระกริ่งบัวเหลี่ยมทุกประการแต่ว่ามีความเล็กกว่าเท่านั้นเอง พระชัยวัฒน์นั้นบางองค์จะอุดกริ่งด้วย///////////////////////////// ของปลอมทั้งพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ไพรีพินาศนั้นต้องสังเกตให้ดี ของปลอมนั้นมีหลายฝีมือด้วยกัน บางฝีมือปาดคอเซียนมาแล้วก็เยอะ ของปลอมมักจะใช้พระบูชาเก่าๆ ที่หักเอามาหล่อ ค่านิยมของพระกริ่งและพระชัยวัฒน์นั้นจัดว่านิยมมาก ราคา การเช่าหาก็หลักหมื่นขึ้นไปถึงหลายหมื่น ด้านอิทธิคุณเชื่อว่าใครบูชาติดตัวจะป้องกันอันตรายต่างๆ แคล้วคลาดภัยใครที่คิดร้ายจะพ่ายแพ้ภัยตนเอง ท่านใดที่หาของเก่าๆ มาบูชาไม่ได้ก็หาของใหม่ก็ได้ สำหรับท่านที่มีโอกาสหาของเก่าก็ดียิ่งครับ ที่มา สารานุกรมพระ พระองค์นี้ติดรางวัลที่สามงานประกวดที่หอประชุมกองทัพเรื้อเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ และมีบัตรรับรองพระแท้จากเวปการันตีพระแถมให้อีกหนึ่งใบ
เข้าชมร้าน     xxxx
โทรศัพท์     xxx-xxx-xxxx ,
ผู้เข้าชม   4959
***  พระเครื่อง มณเฑียร  ***



  พระเครื่อง มณเฑียร   สงวนลิขสิทธิ์ เนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่ปี 2011 ชมรมพระเครื่อง มณเฑียร   พระเครื่อง มณเฑียร  
 
พระเครื่อง มณเฑียร เว็บไซด์ : พระมณเฑียร : WWW.PRAMONTIEN.COM   พระเครื่อง มณเฑียร
 
ห้ามคลิกขวา