เว็บไซด์แนะนํา
|
ข่าว พระเครื่อง สนามพระ วันที่ 27/05/55
|
พระสมเด็จ วัดระฆังฯ พิมพ์เกศบัวตูม.
เดินเข้า สนามพระวิภาวดี อาทิตย์ส่งท้ายเดือนพฤษภาฯ ก้าวแรกก็ตื่นเต้น เมื่อได้เจอ พระสมเด็จ วัดระฆังฯ พิมพ์เกศบัวตูม องค์ใหม่ สวยเชี้ยบ และมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรงตามสไตล์ของพิมพ์นี้ ซึ่งจะค่อนข้างหนาและบึก ดูแกร่งๆ.....
เลยถาม เฮียอั๊ง เมืองชล กันแซดว่าเท่าไหร่ แต่ไม่ได้รับคำตอบ ไม่ใช่ไม่อยากขาย แต่ เฮียอั๊ง สารภาพยังไม่ได้เป็นเจ้าของ ส่วนเจ้าของตัวจริง อดีตบิ๊กนายพล ซึ่งบอกว่าขอปิดชื่อแซ่ไว้ก่อน เพราะขี้เกียจถูกตื๊อซื้อ.....
พระเด่น ***** เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ประภามณฑล (ข้างรัศมี) เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของหมึก ท่าพระจันทร์.
สำหรับ พิมพ์เกศบัวตูม เป็นพิมพ์ที่พบน้อย ที่เจอก็ใช้กันจนสึก ได้เจอสภาพแบบองค์นี้ถือว่า สวยเยี่ยม และเมื่อเทียบกับแชมป์เกศบัวตูม ของแผ่นดิน ก็พบว่าสวยนับเป็นพี่น้องกันได้--ดังนั้น ราคาที่ประเมินประมาณให้องค์นี้ 10 ล้าน++ จึงไม่เว่อร์.....
เพราะ องค์แชมป์โลก ป่านนี้ก็ต้องมีไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน เพราะเจ้าของเก่าแต่ละคน เป็นรุ่นเดอะวงการระดับตำนาน และซื้อขายกันแพงทั้งนั้น เริ่มจาก 40 ปีก่อน เสี่ยหน่ำ ขายให้ คุณฉลี ยงสุนทร และอีกนานต่อมา คุณฉลี ขายให้ เสี่ยนิยม อสุนี ณ อยุธยา ซึ่งไม่กี่ปีก่อนขายต่อให้ เสี่ยวิชัย คิงเพาเวอร์ เจ้าของ ณ ปัจจุบัน.....
รู้ไว้ใช่ว่า ปกติแล้ว พระสมเด็จ วัดระฆังฯ ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ฐานแซม พิมพ์ทรงเจดีย์ จะมีการแยกย่อยออกไปอีก 3-4 พิมพ์ แต่ถ้าเป็น เกศบัวตูม จะมี พิมพ์เดียว.....
พระสมเด็จ บางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่ กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส ของ อ.กฤษณา วรรณกลาง.
ตามมาด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่ กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส ซึ่งองค์นี้ก็ใช่ย่อย แม้จะเป็นพระที่ค้นพบภายหลังจากการเปิดกรุเจดีย์ใหญ่ แต่ก็ได้รับการยอมรับนับถือเพราะพระเจดีย์องค์เล็กตั้งอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน.....
พิมพ์พระมีความแตกต่างและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ อาทิ พิมพ์ยืนประทานพร พิมพ์เจดีย์แหวกม่าน พิมพ์สามเหลี่ยมหน้าหมอน มีเพียง พิมพ์ฐานคู่ แบบองค์นี้ของ อ.กฤษณา วรรณกลาง แห่ง ม.นเรศวร พิษณุโลก พิมพ์เดียว ที่มีลักษณะแบบ พระสมเด็จ .....
ตอนพระออกจากกรุใหม่ๆนักนิยมพระมีความคิดเห็นแปลกแยก กลุ่มหนึ่งพิจารณาจากเนื้อมวลสาร สภาพคราบกรุ และอายุความเก่า ลงความเห็นว่า เป็นพระที่สร้างคราวเดียวกับพระกรุเจดีย์ใหญ่.....
พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าหนุ่ม กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี ของบัมพ์ สุพรรณ.
อีกกลุ่มยึดตรงความแตกต่างของพิมพ์พระ เชื่อว่าเป็นพระสร้างต่างวาระ ก็เลยทําให้ความนิยมในการเล่นหาเป็น รองพระกรุเจดีย์ใหญ่ มาตลอด.....
แต่สำหรับ พระพิมพ์ฐานคู่ ถูกเล่นหาสับสนปนเปทั้งโดยเจตนาและรู้เท่าไม่ถึง การณ์ เพราะเนื้อมวลสารสภาพคราบกรุอายุความเก่า เหมือนกับ พระกรุเจดีย์ใหญ่ แถม พิมพ์ทรง ยัง ใกล้เคียงกันมาก จะแตกต่างกันที่ขนาด ซึ่งคนขาดประสบการณ์ไม่ค่อยรู้ ยกเว้นจะนำองค์พระทั้งสองกรุมาวางคู่กัน จึงจะเห็นชัดว่า พระกรุเจดีย์เล็ก มีขนาดย่อมกว่าอย่างเห็นได้ชัด--อีกจุดที่ทําให้มีการเล่นหาผิดพลาดคือความงดงามของพิมพ์พระที่คมลึกมาก ดูได้ชัดจากพระองค์นี้ที่มีความงามระดับแชมป์.....
ถึงตรงนี้ก็ขอตอบ คำถามสนามพระ ที่อยากรู้ว่าทำไมถึงมี “ทำ–มะ–เนียม” ว่า การสร้างพระเครื่องเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ต้องบรรจุไว้ใน เจดีย์ และใครเป็นต้นคิดในการสร้าง เจดีย์.....
พระพุทธรูปบูชาไพรีพินาศ วัดบวรฯ พ.ศ.2495 หน้าตัก 3 นิ้ว.
โห ถามง่าย แต่ตอบยากวุ้ย แต่ สีกาอ่าง ซึ่งกลัวเสียฟอร์มที่สุด จึงพยายามค้นคว้าและถามคนรู้มากมาตอบ ได้เรื่องหรือไม่ ท่านผู้ชมที่รู้แจ้งเห็นจริง จะเพิ่มเติมมาก็นิมนต์เชิญ.....
ก็ขอเริ่มด้วย พระปฐมเจดีย์ ซึ่งนักโบราณคดีเชื่อว่าเป็น พระเจดีย์ยุคแรก เพราะอายุการสร้างเก่าแก่ที่สุด โดย พระเจ้าอโศกมหาราช แห่งอินตระเดีย ส่งสมณทูตมาสร้างไว้เมื่อ พ.ศ.200-300 เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปเกือบ 300 ปี.....
พระเจ้าอโศกฯ เอง ก็สร้างเจดีย์ไว้ในแว่นแคว้นการปกครองเพียบ ประมาณ 84,000 องค์ เจดีย์สำคัญยุคแรกๆก็คือ พุทธเจดีย์สาญจิ ที่เมืองวิติสะ อายุ 2,000 กว่าปี ซึ่งถือได้ว่าเป็น ต้นตระกูล ของเจดีย์ ว่าต้องมีรูปร่างแบบ ทรงบาตรคว่ำ ที่เห็นกันทุกวันนี้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าทำไม จึงต้องศึกษาตีความต่างๆนานา จนเชื่อว่า รูปลักษณ์ของเจดีย์ สื่อถึง พระพุทธเจ้าในทุกๆด้าน.....
เหรียญพระบรมราชาภิเษก 2493 รัชกาลที่ 9 ของหมึก ท่าพระจันทร์.
การบูชาเจดีย์ จึงเป็นการบูชาระลึกพระพุทธเจ้า สมัยโน้น ชาวพุทธในแคว้นมถุราจึงนิยมสร้างเจดีย์ไว้สักการะกันที่บ้าน คงเหมือนบ้านคนไทยต้องมีศาลพระภูมิ--เสียดายในยุคต่อมา เจดีย์พระเจ้าอโศกฯ ถูกลัทธิต่างๆทำลายไปเกือบหมด.....n
แต่คตินิยมในการ บรรจุพระเครื่องในพระเจดีย์ เกิดขึ้นภายหลัง และในไทยเท่านั้น เพราะ ไม่เคยพบพระเครื่องในเจดีย์สมัยพระเจ้าอโศกฯ เลย.....
แม้จะไม่แน่ชัดว่าเริ่มบรรจุพระพิมพ์ในเจดีย์ในสมัยไหน แต่จากที่เราพบพระเครื่องบรรจุในเจดีย์วัดสี่มุมเมืองในลำพูน ที่พระนางจามเทวีสร้างขึ้น แสดงว่ามีการบรรจุพระเครื่องในไทยเจดีย์มาไม่น้อยกว่า 1,300 ปีแล้ว.....
องค์ต่อไปยังเป็นชุดเบญจภาคี คือ พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าหนุ่ม กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี ขุนพลพระเครื่องแห่งเมืองขุนแผนจาก เสี่ยบัมพ์ สุพรรณ ซึ่งเขียนหลังภาพมาว่าเป็น องค์แชมป์ ซึ่งก็จริง เพราะพระพิมพ์นี้ที่เคยผ่านตา ส่วนใหญ่จะถูกใช้ได้สัมผัสจนเส้นสายรายละเอียดลบเลือนราง ต่างจากองค์นี้ที่ยังมีความงดงามสภาพเดิมชัดเจน แถมได้ความคมเข้มของเนื้อพระมาเสริมหล่อเต็มๆ.....
พระกริ่งและรูปเหมือน รุ่นอายุยืน ของ หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู อุบลราชธานี.
องค์ต่อไป สวยหยด คือ พระพุทธรูปบูชาไพรีพินาศ วัดบวรฯ พ.ศ.2495 หน้าตัก 3 นิ้ว.....
พระรุ่นนี้สร้างจำลองครั้งแรกโดย สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงศ์) คราวเดียวกับพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ และเหรียญพระไพรีพินาศ ในวาระงานฉลองพระชนม์ 80 พรรษา.....n ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง ราคาจึงแพงมาก ยิ่งเป็นพระขนาดบูชาอย่างองค์นี้ เช่ากันที่ หลักแสนกลางๆถึงแก่ๆ และบอกได้เลยว่า ถ้าอายุท่านผู้ชมไม่ใกล้ฝั่งนัก ได้อยู่เห็น ทะลุล้าน แน่ๆ .....
ตามมาด้วย เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ประภามณฑล (ข้างรัศมี) เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท.....
ด้วยรูปทรงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ กับความอลังการของพุทธศิลป์ ที่สร้างขึ้นด้วยจินตนาการที่สูงส่ง โดยนำฟอร์มทรง สี่เหลี่ยม ของ พระสมเด็จ มารวม เป็นหนึ่งเดียวกับพุทธศิลป์ของ พระซุ้มกอ พระพิมพ์นี้จึงดูมีความสง่างามได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับการยกย่องเป็น ยอดพระเครื่องแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา.....
ยิ่งองค์นี้เป็นพระสวยสภาพเดิม ไม่มีร่องรอยสัมผัสใช้ให้เห็น ปกติยากที่จะเจอ แต่สำหรับแฟนคลับ สนามพระวิภาวดี ง่ายเลย เพราะเจ้าของ เสี่ยหมึก ท่าพระจันทร์ จะเปิดให้ชมองค์จริงวันที่ 29 พ.ค.นี้ เนื่องในโอกาสขยายกิจการเปิดร้านใหม่ บนศูนย์พระพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน.....
อีกเหรียญ คือ เหรียญพระบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สร้างเป็นเหรียญที่ระลึกในพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 หลังเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489.....
ปัจจุบันเป็นเหรียญมีค่าหายาก ราคาหลักล้าน และ เสี่ยหมึก ท่าพระจันทร์ ก็จัดเหรียญสภาพงามสุดอันนี้มาให้ชมวันเปิดร้านด้วย แต่จะเปิดราคาหรือไม่ไปถามกันเอง.....
เหรียญ (อายุยืน) หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค นครสวรรค์ 2517.
เหรียญสุดท้ายเป็นของพระเกจิ คือ เหรียญ (อายุยืน) หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตา-คลี จ.นครสวรรค์ พ.ศ.2517 สร้างออกคราวงานบุญฉลองอายุครบ 125 ปี หลวงปู่สี ผู้เป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่.....
นอกจากจะมีชื่อเสียงในด้านวิชาพุทธาคมแล้ว ท่านยังได้ ชื่อว่าเป็นพระที่มีอายุยืนที่สุดของไทย และน่าจะติดอันดับโลกด้วย.....
เข้าสนาม พระใหม่ ราย-การแรกคือ รุ่น ๑๕๕ ปี สมเด็จพระสังฆราชแพ ซึ่งหลังจาก พระเครื่องวัดสุทัศน์ ยุคหลังสุด เสื่อมไปพร้อมกับอนาคตของ เสี่ยอู๊ด ที่นอนเล่นอยู่ในคุกมา 5 ปีแร้ว ก็มีรุ่น พระกริ่ง ๑๕๕ ปี ที่สร้างชื่อเสีย ให้มีชื่อเสียงขึ้นมาใหม่ เพราะพิธีกรรมเข้มขลังถูกต้องตามตำราของ เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ที่สุด เหมือนที่รับสั่งไว้ว่า “พระกริ่งของวัดสุทัศน์ ต้องประกอบพิธีเททองหล่อในวัดสุทัศน์ และจัดพิธีพุทธาภิเษก เพราะที่นี่... ศักดิ์สิทธิ์แม้กระทั่งแผ่นดิน”.....
พิธีเททองหล่อโบราณ และปลุกเสกปฐมฤกษ์ เมื่อ 27 มี.ค. 55 (ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปี 55) เป็นฤกษ์เดียวกับ พระกริ่งชนะคน ของ สมเด็จพระสังฆราชแพ เมื่อปี 2471 ณ มณฑลพิธีพระอุโบสถวัดสุทัศน์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการเททองในวัดสุทัศน์ ที่งดการเททองมานาน 15 ปี.....
ในรุ่นมี พระพุทธชินราช ย้อนยุคอินโดจีน ซึ่งหล่อพระเบ้าพิมพ์ดินดิบโบราณ เหมือนรุ่นปี 2485 โดยช่างที่เคยหล่อเมื่อ 70 ปีที่แล้วกำกับ (ปัจจุบันอายุช่างเกือบ 90 ปี).....
ที่สนใจกันมากคือ พระกริ่งเนื้อสัมฤทธิ์ลงหิน ผสมทองคำ เททองโบราณ และ พระพุทธชินราช เนื้อสัมฤทธิ์ทองลงหิน ผสมทองคำ พิมพ์ดินดิบหล่อโบราณ--สอบถามได้ที่ 08-7079-3639 หรือ www.uamulet.com หรือ www.maharatamulet.com.....
อีกรายการที่สร้างดีพิธีใหญ่คือ พระบูชาสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต วัดระฆังฯ รุ่น เบญจ- บารมี ซึ่ง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเป็นประธานในพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งที่ 1 เมื่อ 3 พ.ค.55 ณ พระอุโบสถวัดระฆังฯ โดย พระพรหมสุธี วัดสระเกศฯ จุดเทียนชัย และ เจ้าคุณเที่ยง เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ดับเทียนชัย มีพระเกจิ 29 รูปนั่งปรก.....
พระบูชาสมเด็จโต วัดระฆังฯ รุ่นเบญจบารมี หน้าตัก 9 นิ้ว เนื้อโลหะรมดำมันปู.
พิธีมหาพุทธา-ภิเษกครั้งที่ 2 จะมีขึ้น 22 มิ.ย.นี้ ซึ่งตรงกับ วันมรณภาพ ครบ 140 ปี สมเด็จโต จัดที่วิหารสมเด็จโต วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง .....
พระบูชาสมเด็จโต รุ่นนี้ หน้าตัก 9 นิ้ว เนื้อโลหะรมดำมันปู ใต้ฐานองค์พระอุดเทียนชัยและผงเก่า พิมพ์ทรงสวยงาม เป็นรุ่นพิธีใหญ่มาก และสร้างน้อยเพียง 140 องค์ บวกอีก 1 เป็น 141 องค์ (เท่าปีที่สมเด็จโตมรณภาพ) ทุกองค์จะมีโค้ดและเลขหมาย.....
นอกจากรูปหล่อบูชา ยังมีเหรียญยอดนิยมแห่งยุค แบบ ฉลุลายยกองค์ เช่น เหรียญพิมพ์พระประธาน หลังชินบัญชร เหรียญรูปเหมือนสมเด็จโตบริกรรมคาถา หลังชินบัญชร ฯลฯ ซึ่งเป็น เหรียญฉลุลายยกองค์รุ่นแรก ของ สมเด็จโต--สอบถามได้ที่ 08-1566-8889, 08-6300-2549 และ 0-2467-5082.....
รายการสุดท้ายที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกไปเมื่อวาน 26 พ.ค. คือรุ่น อายุยืน ของ หลวงปู่คำบุ สุดยอดพระเกจิแห่งวัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี ที่มีลูกศิษย์ทั่วประเทศ เพราะวัตถุมงคลของท่านมีพุทธานุภาพมากมาย ทั้งทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม อุดมโชค.....
ท่านเป็นพระที่มีเมตตาขั้นสูง เมื่ออายุครบ 90 พรรษา ลูกศิษย์จึงเรียกร้องให้จัดสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก จึงเกิดรุ่น อายุยืน ขึ้น เพื่อนำรายได้ไปสร้างวัดให้แล้วเสร็จ และสมทบกองทุน หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโต.....
รุ่น อายุยืน มีทั้งเหรียญห่วง เชื่อมแบบโบราณ ที่จัดสร้างเป็นครั้งแรก ด้านหลังเป็นยันต์ครูของหลวงปู่ รอบๆยันต์มีคำว่า โชคดี ร่ำรวย ปลอดภัย อายุยืน อีกแบบคือ รูปเหมือนปั๊ม ซึ่งลูกศิษย์บอกว่า สวยคมและแกะแบบได้เหมือนหลวงปู่ที่สุด.....
ที่ขาดไม่ได้คือ พระกริ่ง ซึ่งใช้พระกริ่งสายวัดสุทัศน์เป็นต้นแบบ พุทธศิลป์จึงสวยขลัง และยังมีแบบบูชา เป็น รูปเหมือนหลวงปู่ อุ้มบาตร ตัวบาตรถอดได้และมีฝาปิด มีอักษร โชคดี ร่ำรวย ปลอดภัย อายุยืน--อายุยืนแล้ว ต้องยืนแบบไม่จน จนแล้วอายุยืนลำบากแย่.....
ใครชอบทำบุญกับวัดบ้านนอกไม่ร่ำไม่รวยหลวงพ่อไม่หรู ไปเช่าได้ที่วัดกุดชมภู อ.พิบูลมัง-สาหาร จ.อุบลราชธานี 08-3375-5993, 08-8126-2689.....n เรื่องลาฮาเฮส่งท้ายเดือนห้า อินเทรนด์ กับที่ ไทยรัฐกำลังจัดให้ทายผลบอล ชิงเงินและรางวัลหลายสิบล้าน.....
เสี่ยอู เจ้าของทีมฟุตบอลเยาวชนระดับท้องถิ่น ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ผู้จัดการจอมคาถา เพราะก่อนลงสนาม เสี่ยอู จะเอา พระปิดตามหาอุด ขึ้นมาสวด และให้ ผู้รักษาประตู เอาไปแขวนไว้ที่เสาประตู ซึ่งก็แปลกที่ทีมตรงข้ามยิงไม่เข้า จนร่ำลือกันว่า ทีมฟุตบอลเสี่ยอู เสียประตูยากส์ ที่ซู้ด.....
วันก่อนมีนัดแข่งอีก แต่ผู้รักษาประตูเจ็บลงไม่ได้ ต้องใช้ตัวสำรอง พอเห็นประตูสำรองมีอาการตื่นเต้น เสี่ยอู ก็ปลอบใจไม่ต้องกลัว เดี๋ยวเอา พระปิดตา ห้อยไว้ที่เสา รับรองกินเรายาก พอเริ่มแข่งครึ่งแรก ทีมเสี่ยอูก็ถูกบุกยิงประตูตลอด แต่ไม่เข้าจริงๆ.....
พระกริ่งและพระพุทธชินราช เนื้อสัมฤทธิ์ ทองลงหิน รุ่น ๑๕๕ ปี สมเด็จพระสังฆราชแพ.
เสี่ยอู ฮึกเหิมมาก ครึ่งหลังเลยสั่งให้บุกไปยิงเขามั่ง แต่ยิงแล้วยิงอีกเป็นสิบครั้งก็ไม่เข้า จนหมดแรงเลยถูกคู่แข่งบุกมายิงกลับชนะไป 2-0--หลังจบการแข่งขัน เสี่ยอู ปลอบนักบอลว่าแพ้แค่นี้ถือว่าเก่งแล้ว เพราะเราเป็นทีมเล็กกว่าเขาเยอะ แต่ เสี่ยอู ก็บ่นว่า มัน เล่นพระ อะไรวะ เหนียวจริงๆ ยิงยังไงก็ไม่เข้า.....
ประตูสำรอง ทำหน้าตกใจ วิ่งออกไปจากห้อง สักพักกลับมาพร้อมส่ง พระปิดตา ให้ เสี่ยอู สารภาพว่า มันใช้ พระองค์นี้ แหละเฮีย--เพราะตอนพักครึ่งเปลี่ยนข้าง ประตูมือใหม่ ลืมหยิบ พระปิดตา ที่เสาประตูไปห้อยอีกฝั่งด้วย ฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนข้างมาเลยได้ใช้ฟรี เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
ข้อมูลจากเว็ป http://www.thairath.co.th
|
|
|
|
พระมณเฑียร