เว็บไซด์แนะนํา
|
ข่าว พระเครื่อง สนามพระ 25/03/55
|
นับถอยหลังสู่ความร้อน ซึ่งยังไม่ทันจะถึงเมษาฮอตฉ่า ก็มีตายเพราะความร้อนแล้วทั้งคนทั้งช้าง--ท่านผู้ชมจงระวังสุขภาพ กินน้ำเยอะๆจะช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ดี
เข้า สนามพระวิภาวดี ติดแอร์ เย็นฉ่ำ องค์แรกที่ได้ดูคือ พระกริ่งปวเรศ ใน สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรฯ ซึ่งหายากระดับโลก ที่เห็นกันอยู่ก็หน้าเดิมๆ
พอ เสี่ยกําพล วีรเทพสุภรณ์ นิมนต์องค์นี้มาอวด ก็ตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะเป็นพระหน้าใหม่เอี่ยมและสวยล้ำ
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ ของชัยญา ลิ้นปราชญา
เดือนก่อน ตอน พระกริ่งปวเรศ องค์นี้เข้าวงการ เซียนใหญ่ก็รุมแย่ง แต่เจอราคาสูงสุดสอยจึงถอยกรูด เหลือแต่ เสี่ยกําพล วิ่งชน เจรจากันไม่กี่ยก ก็สายตรงถึงข้าพเจ้า บอกว่าได้เป็นเจ้าของแล้ว แต่ขอสงวนราคา บอกเพียงว่า ซื้อแพงสุด ในพระกริ่งที่เคยมีมา--ใครอยากรู้ต้องไปค้นข่าวเก่าๆดูว่า เสี่ยกำพล เคยซื้อพระกริ่งแพงสุดเท่าไร หรือไม่ก็คอยฟังราคาวันที่ เสี่ยกําพล อยากขาย เพราะต้องบอกต้นทุนเก่าให้รู้ ก่อนบวกกำไร คนจะได้ไม่หาว่าแพงเว่อร์
ตามมาด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ องค์นี้แม้ดูฟอร์มโดยรวมจะแปลกตาไม่ลงตัว เพราะ ตัดปีกขอบข้างไม่เรียบร้อย ด้านหนึ่งขาด ด้านหนึ่งเกิน อีกสองด้านพอดี
ข้อด้อยนี้ ในอดีตอาจจะเป็นจุดอ่อนให้โดนตําหนิ แต่ยุคนี้ที่พระสมเด็จหายาก นักนิยมพระจึงเปลี่ยนความคิด กลับมองว่าพระองค์นี้มีความเป็นธรรมชาติ มีเนื้อมาก และฟอร์มโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะองค์ไปเฉย เห็นเมื่อไรก็จําได้ว่าเป็นพระแท้แน่นอน และยังมี ลักษณะพระสมเด็จบางขุนพรหม ให้ได้ศึกษาครบ เสี่ยโป่ย–ชัยญา ลิ้นปราชญาจึงตีราคาไว้ 4 ล้าน 5
สรุปว่าพระองค์นี้มีข้อเสียเรื่องเดียว แต่มีข้อดีมาหักล้างเหลือเฟือ ไม่เหมือนเมียเก่าๆแก่ๆ หาข้อดีข้อเดียวยังยาก แต่มีข้อเสียมากลบมิด
พระชัยวัฒน์ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง รุ่นสร้างเขื่อน ก้นอุดชันโรง พิมพ์ใหญ่
ต่อไปเป็น พระชัยวัฒน์ วัดหนัง รุ่นสร้างเขื่อน ก้นอุดชันโรง พิมพ์ใหญ่ ที่เรียกสั้นๆรู้กันว่า พิมพ์เขื่อนใหญ่ ที่ หลวงปู่เอี่ยม สร้างไว้สมนาคุณผู้ช่วยสร้างเขื่อนหน้าวัด
พิมพ์พระมี 2 ขนาดใหญ่ แบบนี้มอบให้ผู้ชาย ขนาดเล็กมอบให้ผู้หญิง ปัจจุบันได้รับความนิยมสูง หลักแสนทั้งคู่ แต่องค์คงแพงพิเศษเพราะเจ้าของยังเขียนบอกมาว่าเป็นองค์ที่ลงภาพอยู่ในหนังสือหลวงปู่เอี่ยม ฉบับมาตรฐาน
การที่พระของตัวเองได้ลงอยู่ในหนังสือดีๆ ถือเป็นความภูมิใจของเจ้าของพระ และยังเป็นหลักฐานยืนยันความแท้ความสวยได้ชั่วชีวิต ยกเว้นไปลงหนังสือโหลยโท่ย ลงแต่พระเก๊พระปลอม
รายการต่อไปก็แพงอื้อซ่า เพราะเป็น เหรียญหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน กทม. ถ้าใครจำแม่นจะร้องอ๋อ ว่าเมื่อสองปีก่อนมีข่าวใหญ่ฮือฮาว่าเซียนเหรียญบุกไปตุ๊ง เหรียญหลวงปู่ไข่ ออกมาจากรังเจ้าสัว รวดเดียว 3 เหรียญ ในราคา 10 ล้าน แต่ละเหรียญสวยสูสีๆ
ราคาซื้อเหมาก็ตาลึงกันแล้ว ตอนขายยิ่งตาเหลือก เพราะตีราคาขายปลีกไว้ เหรียญละ 10 กว่าล้าน และมีผู้ซื้อไปทุกเหรียญ
หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม ขอบสตางค์ รุ่นแรก
ถึงวันนี้พอเห็นภาพ 1 ใน เหรียญหลวงปู่ไข่ ชุดซื้อ 10 ล้านขาย 30 ล้าน ก็รู้ว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันอีกแล้ว พลิกดูหลังภาพมีชื่อ เสี่ยไสว สินสวัสดิ์ เป็นเจ้าของ ก็บอกได้ว่าคราวนี้หลวงพ่อคงต้องจําวัดอยู่ที่นี่อีกนาน
อีกสำนักคือ เหรียญหลวงปู่ทวด หลังเตารีด เนื้อโลหะผสม พิมพ์ใหญ่ A 2505 ซึ่งมีมาให้ดูบ่อยๆ เพราะเป็นพระราคาหลักแสน ที่กําลังซื้อง่ายขายคล่อง เหรียญนี้ของ นพ.ชินนาอาชว์ แสงดวงตา เป็นพระสวยสภาพเดิมๆเปลือกผิวยังอยู่ครบ
อีกเหรียญที่กําลังจะกลายเป็นเหรียญในฝัน คือ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม เป็นเหรียญขอบสตางค์ รุ่นแรก พ.ศ.2484 ที่ติดทำเนียบชุด เบญจภาคีเหรียญยอดนิยม ราคาหลักล้าน
ยิ่งแพงคนก็ยิ่งเก็บรักษาอย่างทะนุถนอม ยากที่จะเอาออกมาให้ดูกันง่ายๆ ที่สำคัญเหรียญแท้ๆสวยๆ เศรษฐีซื้อไปเก็บนิ่ง เพราะนับวันยิ่งมีค่า ใช้คุ้มครองตัวก็ได้ เพราะมีประสบการณ์เหลือเฟือ และลึกๆแล้วผู้มีเหรียญรุ่นนี้ใช้บูชา ต่างรู้อยู่แก่ใจว่าใช้แล้วดี มี ลาภผลพูนทวี ดังคําที่เขียนไว้ด้านหลังเหรียญจริงๆ
สุดท้ายเป็น เครื่องรางของขลังยอดนิยม ที่หาชมของแท้และสวยยากขึ้นทุกที คือ เสือเนื้อโลหะผสม รุ่นแรก หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส กทม. เสือ ยุคกลาง ที่กําลังมาแรง ไล่หลัง เขี้ยวเสือแกะ หลวงพ่อปาน พระอาจารย์ท่าน เพราะรูปลักษณ์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว และอานุภาพด้านคุ้มครองแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มีให้เห็นเด่นชัด จากเรื่องราวที่ ชาวเรือ ศิษย์ท่านมีเหตุตีรันฟันแทงกับ
กุลีท่าเรือ ถูกรุมตีรุมแทงทั้งตัว
เหรียญหลวงปู่ไข่? วัดเชิงเลน กทม. ของไสว สินสวัสดิ์
ตํารวจไปพบ นอนสลบเหมือดเหมือนตายอยู่ในโกดังข้าว พอนําส่งโรงหมอ ปรากฏว่าตัวมีรอยชํ้าเป็นจํ้าๆนับสิบ แต่ไม่มีแผลเข้าเนื้อสักนิด ในตัวมี เสือหลวงพ่อวงษ์ อยู่ตัวเดียว พอเป็นข่าวทางวิทยุ ทําให้คนมุ่งหน้าไปหาหลวงพ่อล้นหลาม ท่านจึงสร้างเสือไว้ถึง 6 รุ่น รูปแบบเดียวกัน ต่างแต่เนื้อโลหะที่เปลี่ยนไปทุกรุ่น
สําหรับ เสือรุ่นแรก เนื้อโลหะผสมแก่ทองเหลือง สวยขลังแบบองค์นี้ของ เสี่ยสมศักดิ์ อมรพิทักษ์ ปัจจุบันขึ้นหลักแสนไปแล้ว
ต่อไปเดินดู พระใหม่ วันนี้ มีมาทั้งพระทั้งเทพ รายการแรกเป็นของ วัดสุทัศน์ ซึ่งเริ่มกอบกู้ชื่อเสีย ให้ได้ตัว ง กลับมา หลังถูกปู้ยี่ปู้ยำ ในสมัย เสี่ยอู๊ด ครองวัด--ซึ่งตอนนี้ไปครอง เรือนจำ
บัดนี้ สมควรแก่เวลา จึงจัดสร้าง รุ่น 155 ปี สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ขึ้น เพื่อสืบทอดตำนานสุดยอดพระกริ่ง
พระกริ่ง ถือเป็นพระเครื่องชั้นสูง ซึ่งต้องมีพิธีกรรมจัดสร้างถูกต้องทุกขั้นตอน และต้องเกิดขึ้นด้วยความ บริสุทธิ์ จึงจะเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์
เสือเนื้อโลหะผสม รุ่นแรก หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส กทม. ของสมศักดิ์ อมรพิทักษ์
นอกจากนั้น จะต้องใช้มวลสารตามตำรา นวโลหะวิธี โดยนำโลหะธาตุ 9 ชนิดไปหลอม แล้วรีดให้เป็นแผ่น เพื่อลงพระยันต์ในพระอุโบสถตามฤกษ์พานาที
พิธีกรรมก็ต้องตั้งโรงพิธีเททอง และโรงพิธีพุทธาภิเษก ประกอบด้วยราชวัตรฉัตรธงเครื่องประกอบต่างๆมากมาย การโยงสายสิญจน์ ก็จะต้องทำตามตำรา ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ คือจะวงสายสิญจน์จากพระประธานที่วิหารหลวง จากพระประธานที่ศาลาการเปรียญ และจากพระเจดีย์ที่บรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระวันรัต (แดง) เข้ามาในพระอุโบสถ
ข่าวการจัดสร้าง รุ่น 155 ปี สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ได้รับความสนใจมาก เพราะจะจัดพิธีเททองหล่อโบราณเป็นครั้งแรก ในวัดสุทัศน์ หลังงดไปนาน 15 ปี ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ โดย ท่านเจ้าคุณพระ ธรรมรัตนดิลก เจ้าคณะภาค 4 เป็นประธาน ซึ่งเป็นฤกษ์เดียวกับสมัยเจ้าพระคุณสมเด็จฯทรงหล่อ พระกริ่ง ชนะคน เมื่อปี 2471--อีกนาน 111 ปี จะมีฤกษ์เช่นนี้อีกครั้ง ใครขี้เกียจอยู่จนถึงตอนนั้น ก็ควรไปร่วมพิธีซะตอนนี้
วัตถุมงคลที่เด่นๆในรุ่นนี้มี อาทิ พระกริ่ง 155 ปี นวโลหะ แก่ทองคำ เทเข้าเบ้าดินไทยโบราณ และ พระชัยวัฒน์ เนื้อสัมฤทธิ์ทองลงหิน ผสมทองคำ ผิวไฟ เททองโบราณ--สอบถามได้ที่ 08-7079-3639 และ 08-7079-3185
พระกริ่งนวโลหะ และพระชัยวัฒน์ เนื้อทองลงหิน รุ่น 155 ปี สมเด็จพระสังฆราช -แพ-
อีกรายการคือ เทพพระราหู ผู้พลิกชะตา ประทานโชคลาภ รุ่น ชนะมาร ของพระเกจิชื่อดังสายใต้ หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง พัทลุง ซึ่งเชี่ยวชาญศาสตร์การบูชาเทพพระราหู เพื่อบรรเทาอิทธิฤทธิ์ของพระราหู ให้กลายเป็นคุณต่อตัวผู้บูชา
สมัยนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก พระราหู ซึ่งเป็นเทพองค์หนึ่งที่มีพลังอำนาจ กุมชะตากรรมของมนุษย์ เชื่อกันว่าพลังจิตของเทพราหู ส่งผลในทางร้ายต่อมนุษย์--เวลาเจอแต่ปัญหา เคราะห์กรรม จึงมักพูดกันว่า ราหูเข้า
ออกเมื่อไหร่นั่นแหละถึงจะดี แต่กว่าจะออกก็สะบักสะบอม โบรา-ณาจารย์จึงคิดหาวิธีแก้ไขแบบละมุนละม่อม แทนการต่อต้าน พระราหู ซึ่งยากจะต่อกร
หลวงพ่อคล้อย จึงสอนให้ศิษยานุศิษย์ฝึกปฏิบัติธรรม ควบคู่กับการบูชาพระราหู เพื่อขอความเมตตาและขอพรให้พลิกชะตา มีโชคลาภแก่มนุษย์ผู้ศรัทธาท่าน
พระจัดสร้างไม่มาก เนื้อทองคำ, เงิน, เงินชนวน, นวโลหะ, เมฆสิทธิ์, เนื้อทองชนวน 1,500 องค์ และเนื้อสัตโลหะ มี 8 ชุด ชุดละ 888 องค์--รายได้เพื่อสาธารณประโยชน์ และส่วนหนึ่งลูกศิษย์มอบให้ หลวงพ่อคล้อย ซึ่งอายุมากแล้วใช้รักษาอาพาธ สอบถามที่ 08-9541-4605, 08-1754-5580, 08-1933-9640 และศูนย์พระเครื่องชั้นนำ
เหรียญหลวงปู่ทวด หลังเตารีด เนื้อโลหะผสม พิมพ์ใหญ่ A 2505 ของ นพ.ชินนาอาชว์ แสงดวงตา
อีกข่าวจาก มูลนิธิรัฐประชา ซึ่งร่วมกับวัดระฆังฯ เททองหล่อพระประธาน เพื่อประดิษฐาน ณ วัดหุบผาสวรรค์ (วัดระฆังโฆสิตาราม สาขา 2) ราชบุรี วันนี้ 25 มี.ค. ตั้งแต่ 09.00 น. โดยมี พระพรหมดิลก วัดสามพระยา เจ้าคุณเที่ยงวัดระฆังฯ และท่านยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ เป็นประธาน
พร้อมทั้งได้จัดสร้าง พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นระฆังคู่ หารายได้สร้างวัดหุบผาสวรรค์ ซึ่งเดิมมีเพิงเก่าเป็นที่พำนักสงฆ์ 1 หลัง ต่อมามูลนิธิได้ร่วมทำบุญจัดสร้างกุฏิเพิ่ม 9 หลัง และกำลังสร้างพระอุโบสถและศาลาการเปรียญ
ข่าวสุดท้าย วันนี้ร้อนยังไงคนก็คงแน่น งานประกวดพระเครื่องฯ ที่ศาลาเทศบาลนครแหลมฉบังข้าง ม.เกษตรฯศรีราชา เหมือนทุกปี เพราะคนดังวงการพระ คือ เสี่ยไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ ซึ่งพักหลังไปทำสวนอยู่ศรีราชา และ เสี่ยสมพงษ์ สมวงษ์ เศรษฐีใหญ่ศรีราชา เสี่ยคมสัน ชาญชัยวรวิทย์ และ เสี่ยฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกสมาคมประมงเมืองชลฯ ช่วยกัน หนับหนุน ให้ เสี่ยสถาพร ตรีเนตร รักษาการประธานชมรมพระเครื่องศรีราชาจัดขึ้น โดยมีเซียนทุกทิศไปช่วยกันคับคั่ง
ลาเดือนมีนาด้วย ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในวงการพระ เมื่อเซียนน้อยใหญ่ถูกกรมสรรพากรเรียกภาษีจนสะดุ้งโหยง สนามพระเลยปั่นป่วน
เพราะก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว กรมสรรพากรเคยมาตรวจสอบการทำมาหากินของวงการพระ และจัดเก็บภาษีกันไปแล้ว โดยส่วนใหญ่เปิดร้านอยู่ตามศูนย์พระก็เสียภาษีเหมารายปีไป--แต่ปรากฏพอมีข่าวว่ามีการซื้อขายพระกันโครมๆองค์เป็นสิบล้าน (โดยการนำเสนอของ สีกาอ่าง ตัวดี) สรรพากรก็เต้นว่าจ่ายภาษีน้อยไป เลยตามตรวจสอบเงินเข้าออกในบัญชีเซียนพระ พบว่าหลายคนมีเงินหมุนเวียนเป็นร้อยๆล้าน--ก็เลยคำนวณมาว่ารายได้เท่านี้ต้องเสียเท่าหล่าย บางคนเลยตาเหลือก เพราะเจอไป 100 ล้าน!
เทพพระราหู รุ่นชนะมาร หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง พัทลุง
ในฐานะที่ข้าพเจ้าถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการรายหนึ่ง จึงขอชี้แจงพ่อแม่พี่น้องและสรรพากรว่า อาชีพเซียนพระเป็นอาชีพพิเศษ ที่ เงินมาก แต่รายได้ไม่ได้มากจริง
ยกตัวอย่างชัดๆว่า สมมติมีการซื้อขายพระราคา 10 ล้าน คนซื้อก็โอนเงินเข้าบัญชีเซียนคนขายมา 10 ล้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าเซียนจะได้ไปทั้ง 10 ล้าน เพราะพระมีต้นทุน เซียนไปเช่าต่อมาอีกที ก็ต้องเอาค่าพระไปจ่ายเจ้าของพระ ซึ่งทั่วไปแล้ว พระ 10 ล้าน เซียนพระจะได้อย่างมากก็ 2-3 แสน และถ้าหุ้นเช่ากันมา ก็ต้องแบ่งกำไรกันหลายคน และมีบ่อยที่ไม่ได้กำไรซักบาท เพราะไปกู้เงินมาเช่า กว่าจะขายได้ ดอกเบี้ยก็พอดีกับกำไร
อีกอย่างที่ทำให้บัญชีธนาคารเซียนพระมีเงินหมุนเวียนเยอะ เพราะส่วนใหญ่มีอาชีพเสริมคือ รับสร้างพระ ให้วัดต่างๆเพราะมีความรู้ความชำนาญ บางรุ่นที่ดังๆอย่างสมัยจตุคามรามเทพ เงินสะพัด จึงมีเงินเข้าบัญชีกันเป็นร้อยๆล้าน
แต่จริงๆแล้ว เงินรายได้ ก็ต้องไปจ่ายค่าจัดสร้างต่างๆ เช่น ค่านิมนต์พระไปปลุกเสก ซึ่งพระเกจิดังๆมาไกล ต้องถวายกันเป็นหมื่น ไหนจะค่าซื้อมวลสารเนื้อโลหะมาสร้างพระ ค่าช่างแกะพิมพ์ ค่าจัดพิธี ค่าพราหมณ์ ค่าถวายวัด ที่ตกลงกันไว้จะช่วยวัดสร้างอะไร ค่าโฆษณา ค่าโบรชัวร์ ค่ากล่องใส่พระ ค่าขาย ฯลฯ ซึ่งมีรายจ่ายยาวเหยียด แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถหาใบเสร็จมาได้ ก็เลยดูว่าเซียนพระมีแต่ รับ รับ รับ
การสรุปว่าใครมีรายได้มาก ของ สรรพากร กับ ธนาคาร จะต่างกัน เพราะธนาคารไม่สนเลยว่า เงินหมุนเวียนเข้าบัญชีมากแค่ไหน เพราะ แต่งบัญชี ให้ดูดีได้ แต่จะดูการเสียภาษี ซึ่งพิสูจน์ว่ารายได้สูงจริง รวยจริง--จึงเห็นว่าอาชีพ เซียนพระ มักจะ กู้แบงก์ ไม่ค่อยได้ ยกเว้นมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ลำพังแค่โชว์ สเตทเมนท์ ว่ามีเงินหมุนเวียนเข้าออกเป็นร้อยๆล้าน แบงก์ก็ไม่ค่อยพิจารณา ถือเป็นอาชีพรายได้ไม่แน่นอน
ส่วนที่สรรพากรจะแย้งว่า เวลาซื้อพระ 10 ล้าน ถ้าต้องจ่ายคืนเจ้าของพระ 95% ก็ต้องตาม เจ้าของพระ มาเสียภาษี เพราะเป็นผู้มีรายได้นั้น พูดถูกแต่ทำไม่ได้ เพราะเจ้าของพระตัวจริงไม่มีใครยอมเปิดเผยตัว อาจจะกลัวญาติรู้ขอแบ่ง หรือไม่ก็ตุกติกใครมา เวลาขายได้ก็ไม่ยอมให้โอนเข้าบัญชีหรือตีเช็ค แต่จะขอรับเงินสดๆ รับแล้วก็หายกริบ ติดต่อไม่ได้ ยกเว้นมีพระมาขายใหม่
เซียนพระก็เลยบอกไม่ได้ว่าจ่ายเงินให้ใคร และจริงๆในทางปฏิบัติ ก็ไม่สนใจจะรู้ รู้แต่พระแท้ ซื้อได้ขายได้ก็พอ ขืนเซ้าซี้อยากรู้มาก เจ้าของพระก็หนีไปขายคนอื่น--นี่คือความจริงในวงการพระ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
ข้อมูลจากเว็ป http://www.thairath.co.th
|
|
|
|
พระมณเฑียร