เว็บไซด์แนะนํา




คมเลนส์ส่อง พระเครื่อง ประจำ วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2555


 
 พระเครื่อง คมเลนส์ส่อง
 พระเครื่อง คมเลนส์ส่อง
 พระเครื่อง คมเลนส์ส่อง
 พระเครื่อง คมเลนส์ส่อง

คมเลนส์ส่องพระ16กันยายนพ.ศ.2555

คมเลนส์ส่องพระประจำวันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 : แล่ม จันท์พิศาโล



••• คมเลนส์ส่องพระ วันนี้ขอเริ่มด้วย พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี เป็น ๑ ใน ๕ ของพระชุดเบญจภาคียอดนิยม ศิลปะอู่ทอง เนื้อดินผสมว่านและเกสร ผู้สร้างคือ พระมหาเถระปิยทัสสีศรีสารีบุตร ในสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ ด้านหลังส่วนใหญ่มีลายนิ้วมือของพระมหาเถระปิยทัสสีศรีสารีบุตร มี ๓ พิมพ์ คือ พิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง และ พิมพ์หน้าหนุ่ม เป็นพระพิมพ์สามเหลี่ยมตัดมนตรงยอดบน ขอบข้างมีรอยตอกตัด พระแทบทุกองค์จะปรากฏราดำเกาะติดบนผิว อันเป็นธรรมชาติของพระเนื้อดิน และมีเม็ดแร่ว่านดอกมะขามเป็นเม็ดสีแดงเล็กๆ ฝังอยู่ในเนื้อพระ สิ่งที่ไม่มีในเนื้อ พระผงสุพรรณ คือ เม็ดกรวดทราย เพราะเนื้อพระพิมพ์นี้ได้ผ่านการร่อนกรองมาแล้วเป็นอย่างดี องค์ในภาพนี้เป็น พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ ซึ่งเรียกตามลักษณะของใบหน้าที่เห็นจากองค์พระ คือ หน้าคนแก่ ที่มีลักษณะเคร่งขรึม ถมึงทึง แก้มเหี่ยวย่น คางเสี้ยม ดวงตามองลงต่ำ พระพิมพ์นี้ อ.มนัส โอภากุล ปรมาจารย์พระเมืองสุพรรณ ผู้ล่วงลับไปแล้ว ได้เขียนเป็นภาพลายเส้นเพื่อให้เห็นความเด่นชัดตรงพระกรรณ (หู) ด้านขวาซึ่งยาวกว่าด้านซ้าย และอีกจุดหนึ่งคือปลายพระหัตถ์ (มือ) ซ้ายสั้น ไม่จดพระกร (ข้อมือ) ขวา จุดเด่นของ พระผงสุพรรณ ทุกพิมพ์คือหน้าอกนูนใหญ่จนดูเหมือนกับหัวช้าง พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ องค์นี้จัดว่าเป็นพระสวยสมบูรณ์คมชัดลึกมาก จนปรากฏรายละเอียดต่างๆ ทั้งบนใบหน้าและลำตัวอย่างชัดเจนทุกซอกมุม เป็นพระสวยระดับแชมป์ ที่หาดูได้อยากในทุกวันนี้ นับเป็นความโชคดีของ กนก จันทนโรจน์ เจ้าของพระองค์นี้ ซึ่งเจาะจงให้ลงภาพในคอลัมน์นี้โดยเฉพาะ ด้วยความรักและผูกพันกับผู้เขียนมาตั้งแต่สมัยที่เป็น บก.บริหาร นิตยสาร ลานโพธิ์ เมื่อกว่า ๑๐ ปีก่อน...ขอกราบขอบพระคุณด้วยความจริงใจ •••

••• พระกำแพงเม็ดขนุน กรุทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร เป็นพระเนื้อดินผสมว่านและเกสรดอกไม้ เช่นเดียวกับ พระกำแพงพลูจีบ พระกำแพงกลีบจำปา ซึ่งเป็นพระลีลาเหมือนกัน ศิลปะสุโขทัย โดยเฉพาะ พระกำแพงเม็ดขนุน มีจำนวนน้อย พบเห็นยาก สมัยก่อนได้รับการจัดอันดับเป็น ๑ ใน ๕ ของพระชุดเบญจภาคี แต่เนื่องจาก พระกำแพงเม็ดขนุน เป็นพระองค์เดียวในชุดนี้ที่มีลักษณะยืนลีลา ในขณะที่อีก ๔ องค์เป็นพระประทับนั่ง จึงมีการเปลี่ยนเอา พระกำแพงซุ้มกอ ซึ่งเป็นพระประทับนั่งมาแทนที่ พระกำแพงเม็ดขนุน พระพิมพ์นี้ขุดพบที่ วัดพิกุล วัดบรมธาตุ วัดอาวาสน้อย และบริเวณทั่วๆ ไปของลานทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร ในทุกวันนี้พระพิมพ์นี้พบเห็นของแท้ได้ยากมาก โดยเฉพาะองค์ที่สวยสมบูรณ์อย่างที่เห็นในภาพนี้ ซึ่งมีลักษณะพิเศษ คือ เนื้อสีเขียว จึงมีการตั้งชื่อพระองค์นี้ว่า “มรกตสยาม” เป็นสมบัติของ ด.ญ.ใบเฟิร์น บังคง หนูน้อยผู้โชคดีที่มีโอกาสเป็นเจ้าของพระล้ำค่าองค์นี้ตั้งแต่วัยเยาว์ •••

••• พบกันครั้งใด จุก อุตรดิตถ์ จะต้องมีภาพ พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร มาให้ลงคอลัมน์นี้เสมอ เพราะมีการซื้อขายกันตลอดเวลา แม้ว่าพระแต่ละองค์จะมีมูลค่าเกินล้านก็ตาม ครั้งนี้ก็เหมือนเช่นครั้งก่อน คือ พระหลวงพ่อเงิน พิมพ์นิยม สวยงามล้ำเลิศสุดพรรณนาจริงๆ เป็นพระแชมป์เก่าในอดีต มีภาพในหนังสือพระเล่มเก่าๆ แทบทุกเล่ม ความสวยคมชัดระดับนี้ก็ต้องว่ากันที่หลายล้านขึ้นไป •••

••• พระกริ่งสุจิตโต หรือ พระกริ่งบัวรอบ เป็นพระกริ่งที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล (เสด็จพระองค์ชายใหญ่) ทรงจัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงษ์) ขณะทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖ รอบ (๗๒ พรรษา) นับเป็นพระกริ่งรุ่นแรกในเจ้าประคุณสมเด็จ ทรงถวายพระนามพระกริ่งรุ่นนี้ว่า “พระกริ่งสุจิตโต” ตามพระนามฉายาของพระองค์ ทรงประกอบพิธีเททองหล่อแบบโบราณ ณ หน้าพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๔๘๗ จำนวนสร้างพิมพ์ใหญ่ ๓๐๐ องค์ พิมพ์เล็ก ๑๐๐ องค์...ที่ใต้ฐานได้เจาะเป็นช่องกว้างเพื่อบรรจุเม็ดกริ่งเข้าไปในองค์พระ พร้อมกับปิดทับด้วยแผ่นทองแดง องค์ในภาพนี้เป็นพระกริ่งแต่งเก่า สวยสมบูรณ์คมชัดมาก เช่าหากันที่หลักแสนกลาง เป็นพระของ แดง รามอินทรา •••

••• นานพอสมควรที่ไม่ได้พบกับ ท่านสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง จ.นครศรีธรรมราช แต่ก็มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เป็นประจำ ทราบว่าท่านมี พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี สวยแท้ดูง่าย จึงได้ขอภาพมาลงในคอลัมน์นี้ให้ท่านผู้อ่านได้ชมกันเป็นวิทยาทาน พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม องค์นี้เป็นพิมพ์ชะลูดใหญ่ ท่าน นอภ.ได้ครอบครองเมื่อประมาณปี ๒๕๑๘ สมัยที่ยังเป็นนักเรียนโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จ.นนทบุรี นับได้ว่าท่านมีความสนใจสะสมพระเครื่องมาตั้งแต่สมัยนั้น...พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เป็นพระปิดตาที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ๑ ใน ๕ ของพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักยอดนิยม มีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยมเป็นเยี่ยม อายุการสร้างกว่าร้อยปี ยุคสมัยเดียวกับ พระสมเด็จ วัดระฆัง ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ตามประวัติ...หลวงปู่เอี่ยม เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๒ พ.ศ.๒๓๕๙ ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อายุ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ่อ ท่านได้สร้างพระปิดตา เนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก ๓ พิมพ์ คือ พิมพ์ชะลูด พิมพ์ตะพาบ และพิมพ์พนมมือ เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๙๖ เพื่อแจกเป็นของชำร่วยแก่ผู้บริจาคทรัพย์สร้างเสนาสนะของวัด ทุกวันนี้พระปิดตาทุกพิมพ์ของท่านเช่าหากันที่หลักแสนปลายขึ้นไป นอกจากนี้ท่านยังมีเครื่องรางสุดยอดอีกอย่างหนึ่ง คือ ตะกรุดมหาโสรฬมงคล ที่เช่าหากันเป็นแสนเช่นกัน

••• หลวงปู่เอี่ยม เป็นพระเถระผู้มีวิชาอาคมขลัง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มักน้อย ถือสันโดษ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งชาวบ้านและเจ้านายผู้ใหญ่...ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านนั้นมีเหลือคณานับ แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิตก่อนที่จะมรณภาพท่านได้บอกกับลูกศิษย์ว่า “ถ้ามีเหตุทุกข์เกิดขึ้นให้ระลึกถึงท่าน และเอ่ยชื่อท่านก็แล้วกัน” ท่านได้มรณภาพเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๙ สิริรวมอายุ ๘๐ ปี พรรษา ๕๙ ความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ว่ากันว่า...ถาน (ส้วมของพระ) ที่ท่านเคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ถานของท่านเพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไฟไม่ไหม้...ชาวบ้านเห็นเป็นมหัศจรรย์ จึงพากันตัดเอาแผ่นสังกะสีเอาไปม้วนเป็น ตะกรุด จนหมดสิ้น รวมทั้ง ไม้ ที่กั้นห้องถานก็มีผู้เอาไปสักการบูชาจนหมด ไม่มีเหลือแม้แต่เศษไม้ •••

••• พระร่วงยืนประทานพร ศิลปะสมัยลพบุรี โดยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะขอม ยุคบายน เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง อายุประมาณ ๘๐๐ ปี แตกกรุครั้งแรกที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๐ เรียกว่า พระร่วงยืน หลังลายผ้า และยังขุดพบที่กรุอื่นๆ อีกหลายแห่งหลายครั้ง โดยเฉพาะกรุสวรรคโลก จ.สุโขทัย ที่เรียกว่า พระร่วงยืนประทานพร หลังรางปืน เป็นพระที่สร้างในสมัยเดียวกับของเมืองลพบุรี ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น ๑ ใน ๕ ของ พระเบญจภาคีพระเนื้อชินยอดนิยม ขณะเดียวกันที่เมืองลพบุรี ยังมี พระร่วงยืนประทานพร อีกกรุหนึ่งที่ได้รับความนิยมเช่นกัน คือ กรุถ้ำมหาเถร เป็นพระเนื้อชินเงิน อาบปรอททั้งองค์ อ.ต้อย เมืองนนท์ บันทึกไว้ในหนังสือ “อมตพระกรุ” ว่า...“เป็นพระลพบุรียุคปลาย ขุดพบที่ถ้ำมหาเถร ประมาณ ๒ ไห ด้วยเหตุที่องค์พระอยู่ในไหจึงมีสภาพที่สวยสมบูรณ์มาก พระกรุนี้นำแบบพิมพ์มาจาก พระร่วงหลังลายผ้า กรุวัดพระศรีฯ เป็นต้นแบบ จึงมีความสง่างามและอลังการมาก มีเฉพาะเนื้อชินเงินเท่านั้น แบ่งออกเป็น ๓ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ฐานสูง พิมพ์ใหญ่ฐานเตี้ย และพิมพ์เล็ก ขนาดองค์พระสูงประมาณ ๗ ซม. กว้างประมาณ ๒ ซม....” องค์ในภาพนี้เป็นพระติดรางวัลชนะเลิศ งานประกวดพระที่ศูนย์ประชุม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าของพระคือ ฐกร บึงสว่าง ผู้บริหาร บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง •••

••• ผู้ชำนาญพระสาย หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ อีกคนหนึ่งที่โด่งดังมาตั้งแต่สมัยอยู่ที่สงขลา จนทุกวันนี้ขึ้นมาประจำการอยู่ที่ร้าน ชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน คือ แหลม สงขลา ผู้มีบุคลิกภาพสุภาพอ่อนโยน พูดจาไพเราะ จนเป็นที่ชื่นชมของผู้คบหาสมาคมด้วยเสมอ วันนี้ “พี่แหลม” ได้ให้ภาพ พระหลวงพ่อทวด พิมพ์พระรอด หน้าใหญ่ เนื้อว่าน รุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ องค์สวยคมชัดมาให้ชม เป็นพระแท้ที่ดูง่ายด้วยตาเปล่า ถือเป็น พระองค์ครู สำหรับผู้สนใจพระสายนี้ได้เป็นอย่างดี •••

••• พระหลวงพ่อทวด อีกองค์เป็นพระเนื้อโลหะผสมเททองแบบโบราณในชุดหลังเตารีด ปี ๒๕๐๕ (พระอาจารย์ทิม ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๐๕) มี ๓ พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก องค์ในภาพนี้เป็น พระพิมพ์เล็ก หน้าอาปาเช่ แข้งขีด ยอดนิยม องค์นี้เป็นพระเก่าเก็บ สภาพเดิมๆ ทุกอย่าง สวยคมชัดทุกซอกมุม เป็นพระแท้ดูง่ายยึดเป็น พระองค์ครู ได้เช่นกัน เจ้าของคือ ศาล มรดกไทย นักเขียนเซียนพระผู้ชำนาญการดูพระได้ทุกหน้า เป็นศิษย์เอกคนหนึ่งของ ชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง ผู้มีอนาคตก้าวไกลบนเส้นทางสายนี้ •••

••• พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ หลังเตารีด พิมพ์เล็ก “หน้าแหงน” ปี ๒๕๐๕ องค์นี้เป็นพระสภาพแชมป์ ที่คงความสวยและสมบูรณ์ตามสภาพพระเก่าเก็บ ฟอร์มพระล่ำใหญ่ มีคราบเบ้าและผิวยาดำทั่วทั้งองค์พระ พร้อมกับมิติความคมชัดทุกสัดส่วน ค่านิยมในสภาพสวยระดับแชมป์อย่างนี้ทะลุหลักสองแสน ตามหลัง พิมพ์หน้าอาปาเช่ มาติดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์นี้ได้รับรางวัลชนะเลิศจากงานประกวดใหญ่ที่รับรองโดยสมาคมพระฯมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดคืองานของศิษย์เก่านักเรียนนายร้อย จปร. รุ่นที่ ๓๒ ที่ศูนย์ประชุม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นพระของ ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช เจ้าของแชมป์โต๊ะพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ในงานนี้ •••

••• สมศักดิ์ ศกุนตนาฏ ประธานที่ปรึกษา ชมรมพระเครื่องพระประแดง แจ้งข่าว งานประกวดพระเครื่องท้องถิ่นพระประแดง และ สมุทรปราการ ในวันอาทิตย์ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ณ ตลาดพระประแดงอาเขต สามแยกพระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยมี ฝาง พระประแดง เป็นผู้ดำเนินงาน จำนวนพระที่จัดประกวด ๕๒๕ รายการ เป็นการอุ่นเครื่องกันก่อน ต่อไปค่อยจัดเป็นงานใหญ่ในโอกาสหน้า ••• วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กันยายน นี้มีงานประกวดพระที่ศูนย์การประชุม ไบเทค บางนา จัดโดย นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปรอ) ๒๕๕๒ •••

••• วางตลาดแล้ว นิตยสาร พระท่าพระจันทร์ ฉบับใหม่ปกเหรียญหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พร้อมกับเรื่องประกอบพระหลวงพ่อเดิมในฉบับที่น่าสนใจ... นิตยสาร พระเครื่องล้ำค่า ฉบับใหม่ ในฉบับอ่านเรื่อง หลวงพ่อแดง วัดอินทาราม โชว์พระล้ำค่า พระปิดตาหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ จ.พิจิตร พระท่านเจ้าคุณโพธิ์ วัดชัยพฤทธิ์ เหรียญพระพุทธรูป วัดสระเกศ ๒๔๗๒ ชี้จุดสังเกต เหรียญหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ๒๔๖๐ ฯลฯ...นิตยสาร พุทธคยา ฉบับใหม่ ปกพระหูยาน กรุวัดปืน ในฉบับอ่านเรื่อง พระอู่ทอง กรุวังพาน กำแพงเพชร, พระอุปัชฌาย์ก๋ง วัดเขาสมอคอน, ชี้จุดสำคัญ เหรียญหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ รุ่นสร้างโรงเรียน ปี ๒๔๘๓ •••

••• สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี จัดเสวนาหัวข้อ “ฆราวาสบรรลุธรรม...ได้อย่างไร” พร้อมแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “๓ ชั่วโมงบรรลุธรรม” ผลงานของ พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย อดีตมหาเศรษฐีพันล้าน เจ้าของธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจคอมพิวเตอร์ ในสหรัฐอเมริกา ผู้พลิกชีวิตทิ้งทุกอย่างแล้วหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม พร้อมทั้งก่อตั้ง มูลนิธิเพื่อผู้ด้อยโอกาสศูนย์พลาญข่อย ใน จ.อุบลราชธานี ภายในงานร่วมเสวนาโดย พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย ร่วมด้วย คุณล้วนชาย ว่องวานิช เจ้าของธุรกิจดูแลสุขภาพแบบองค์รวมภายใต้ชื่อ จีรังสปา นพ.บัญชา แดงเนียม เลขาธิการสมาคมการแพทย์คีเลชั่นไทย และสมาคมเซลล์บำบัดไทย คุณวนิดา ชันชื่อ ประธานกรรมการบริหาร TRSC ศูนย์เลสิคนานาชาติ ดำเนินรายการโดย มีสุข แจ้งมีสุข ในวันพุธที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. ณ หอประชุมพุทธคยา ชั้น ๒๒ อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ราชประสงค์ (บีทีเอสชิดลม) สำรองที่นั่งฟรีได้ที่ www.dmgbooks.com โทร.๐-๒๖๘๕-๒๒๕๕ •••

••• ตามที่ได้เชิญชวนท่านผู้อ่านร่วมเดินทางกับผู้เขียน ไปสักการะ สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง ของพระพุทธเจ้า คือ สถานที่ประสูติ ในประเทศเนปาล, สถานที่ตรัสรู้, แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน ในประเทศอินเดีย...เมื่อวันอาทิตย์ก่อน ขอเรียนว่า ขณะนี้คณะแรกที่จะเดินทางไปในระหว่างวันที่ ๓-๑๑ พ.ย.๒๕๕๕ ได้ครบตามจำนวนที่นั่งแล้ว สำหรับท่านที่สนใจร่วมเดินทางคณะต่อไป สอบถามได้ที่โทร.๐๘-๑๘๖๗-๖๕๔๙ ••• พบกันใหม่ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ต่อไป ขอขอบพระคุณ...ในคำแนะนำอันมีค่า และกำลังใจอันอบอุ่นที่ได้กรุณามอบให้ตลอดมา...นะมัสเต •••



ข้อมูลจากเว็ป   http://www.komchadluek.net


 พระเครื่อง พระมณเฑียร มาตรฐาน พระสวย พระแท้